Micro Channel Architecture ( MCA )

MCA Bus
IBM นั้นออกแบบ AT ขึ้นมา IBM ได้ทำการออกแบบระบบ bus ใหม่เพื่อให้ใช้ได้กับข้อมูล 16 บิต และได้เพิ่มจำนวนของ control line และ ออกแบบ PC AT busโดยขยายออกมาจาก PC bus ซึ่งจะทำให้ competible กับ PC hardware และ IBM จะใช้ 62 pins channel slot เหมือนกับที่ใช้ใน PC และ IBM ได้ทำการเปลี่ยนชื่อของ pin บาง pin ให้สั้นลง และทำการเพิ่มอีก 36 pin ซึ่งใช้เป็น auxiliary slot auxiliary bus นั้นประกอบด้วย bus ข้อมูล 8 เส้น address bus 7 เส้น interrupt request 5 เส้น DMA request และ acknowledge 4 เส้น และ 8 เส้นเป็น power และ control line
จุดเด่นของ MCA
• MCA นั้นใช้
ตัวควบคุม Bus ของตัวเอง แยกจาก CPU เรียกว่า
Central Arbitration Point และการ ส่งผ่านข้อมูล
ก็ทำได้โดยผ่านระบบที่เรียกว่า Bus Master ซึ่งช่วยให้การส่งผ่านข้อมูลระหว่าง
Card ต่าง ๆ กับ หน่วยความจำหลัก ได้อย่างรวดเร็ว
และยังช่วยในการส่งผ่านข้อมูลระหว่าง Card อีกด้วย
• สามารถกำหนดค่าต่าง ๆ
ทั้ง IRQ, DMA, Port ผ่านทาง
ซอฟต์แวร์โดยไม่ต้องยุ่เกี่ยวกับ Jumper หรือ Dipswitch
บน Card เลย โดยค่าต่าง ๆ สามารถ set ผ่านทาง Program เพียงตัวเดียว ก็สามารถ set ได้กับทุก Card ที่ใช้กับ MCA
• สามารถแชร์ IRQ
ร่วมกันได้ ซึ่งนี่เป็นปัญหาสำคัญเรื่องหนึ่ง เพราะ IRQ มีจำนวนจำกัด แต่ก็อยากมี Card เพิ่มมาก ๆ IRQ
ก็อาจไม่เพียงพอ MCA สามารถแชร์การใช้งาน IRQ
ร่วมกันระหว่าง Card อื่น ๆ ได้
• ทำงานที่ 10
MHz สนับสนุนเส้นทางข้อมูลทั้ง 16 bit และ 32
bit ซึ่งสามารถให้อัตราการส่งถ่าย ข้อมูลได้สูงถึง 20 MB ต่อวินาที เลยทีเดียว และด้วยความกว้างของ เส้นทางตำแหน่งขนาด 32
bit ก็ทำให้สามารถอ้างตำแหน่งบนหน่วยความจำได้มากถึง 4
GigaByte แต่สาเหตุที่ทำให้ MCA ข้อเสีย คือ
• ความไม่เข้ากันกับ ISA
Bus เพราะทาง IBM นั้นได้ออกแบบ MCA มาใหม่หมด ทำให้มันเข้ากันกับ ISA เลยแม้แต่น้อย
แน่นอน ระบบบัสแบบ MCA นี้ได้นำมาใช้บน IBM PS/2 ของ IBM เอง ดังนั้น ในเครื่อง PS/2 นี้ก็จะไม่มี ISA และ Card ISA ก็ไม่สามารถนำมาใช้กับ PS/2 ได้ นี้แหละ
ปัญหาหลักสำคัญเลย
• และปัญหาที่หนักที่สุด
ก็คือ ทาง IBM นั้น ได้จดลิขสิทธ์ในเรื่องของ MCA เอาไว้ด้วย ดังนั้นผู้ที่ จะผลิต Card แบบ MCA
เพื่อมาใช้กับ Bus แบบ MCA ของตน ก็ต้องเสียค่าลิขสิทธ์ให้ด้วย (เป็นเงิน 5% ของรายได้จากการขาย
Card นั้น ๆ) ซึ่งก็ไม่ใช่น้อย ๆ เลยทีเดียว ตรงนี้แหละที่เหมือนกับ
IBM กำลังฆ่าตัวตาย กับวิธีเช่นนี้
ก็ตรงเรื่องลิขสิทธ์นี่เอง ถึงแม้ว่าจะดูแล้วน่าสนใจ ดูแล้วเป็นระบบที่ดี แต่
มาตายเพราะการตลาดของ IBM เสียเอง ต่อมาภายหลัง
ได้มีการเพิ่มขีดความสามาถ เข้าไปอีก คือเรื่องของ Streaming Data Mode ซึ่งทำให้ใช้เส้นทางข้อมูลได้ถึง 64 bit และสามารถเพิ่มอัตรา
การส่งผ่านข้อมูลได้ถึง 80MB/s (80 เมกกะไบต์ ต่อวินาที)
และยังได้เพิ่มสัญญาณนาฬิกาไปเป็น 20 MHz ซึ่งจะสามารถทำให้อัตราการถ่ายข้อมูลสูงสุดที่
160MB/s ด้วยเพื่อแข่งขันกับ EISA ที่จะได้กล่าวถึงต่อไป
ที่มา: http://www.nextproject.net/contents/default.aspx?00064
ที่มา: http://www.nextproject.net/contents/default.aspx?00064